http://prad.igetweb.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

 หน้าแรก

 รวมประสบการณ์วัตถุมงคล

 วัตถุมงคล ภายในร้าน

 ติดต่อเราเช่าบูชา

สถิติ

เปิดเว็บ20/11/2010
อัพเดท07/05/2020
ผู้เข้าชม231,134
เปิดเพจ500,593

ประวัติครูบาอาจารย์ท่านต่างๆ

ประวัติสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

ปฎิทิน

« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
iGetWeb.com
AdsOne.com

อาจารย์เม้ง ขุนแผน

 

อาจารย์เม้ง ขุนแผน  

"เสน่ห์หาแลเมตตา ฝากไว้อยู่คู่แผ่นดิน” 

อาจารย์เม้ง  ขุนแผน เดิมทีท่านฝึกวิชามาจาก อาจารย์เก่ง ๆ หลายท่าน เริ่มเรียนกับ อาจารย์แฉล้ม ที่  ซ.สุขุมวิท65 ในสายวิชารักยม ตอนนั้นอายุ 14 ปีเท่านั้น ซึ่งตอนนั้น อาจารย์เม้ง เริ่มใช้รักยมไปใช้งานต่างๆได้แล้วเป็นอย่างดี ท่านเล่าให้ฟังว่าลูกศิษย์พ่อแฉล้มใครออกจากบ้าน อาจารย์แฉล้มท่านเอาปูนแดงคาดคอให้แล้วเอามีดฟันหลังเลย ไม่ปรากฎว่ามีรายไหนถูกฟันเข้าเลยแม้แต่คนเดียว ท่านห้ามว่าอย่าไปด่าพ่อแม่ใครอย่างเดียวเป็นพอ(สมัยเป็นวัยรุ่น อาจารย์เม้ง ท่านก็นิยมแนวทางอยู่ยงคงกระพันเหมือนวัยรุ่นสมัยก่อน แต่มาเห็นว่าการอยู่ยงคงกระพัน นั้นไม่จีรังยั่งยืนย่อมมีพลาดเข้าซักวัน เหมือนเพื่อนรักของท่านที่โตมาด้วยกัน) ส่วนเรื่องวิชารักยมนี่ อาจารย์ท่านบอกว่า เสกแล้วกลางคืนมาดึงผ้าเล่นแล้วกัน ไม่ต้องพูดถึงประสบการณ์เลย ท่านแกะเองเสกตั้งธาตุทีละตน ท่านบอกแกะแล้วให้มันกินเลือดด้วยมันมีเลือดเรามันคือลูกเรา ใช้ไม้รักตายพรายกิ่งหันทางทิศตะวันออก พลีตอนเช้า ยมไม้มะยมตายพรายพลีเย็น  แช่น้ำมันว่านน้ำมันพรายที่ทำมาตั้งแต่เริ่มทำของ และน้ำมันว่านไก่แดง

ต่อมาก็มาเรียนต่อกับหลวงเตี่ย (พระสุรพงษ์ พงษ์สิงห์)วัดกลางนา เป็นพระนักเลงและเป็นพระที่ภูตผี ปีศาจกลัวมาก สมัยนั้นมีการเล่ากันว่า เพียงแค่บ้านไหนที่มีคนถูกผีเข้าสิงอยู่ เพียงแค่หลวงเตี่ยผ่านบ้าน ผีร้ายที่สิงอยู่ก็ออกทันที ที่วัดกลางนานี้ อ.เม้งได้วิชาสายพรายมาเต็ม ๆ คือ ฝึกผสมกระดูกผีทำพระเครื่องเพื่อสร้างกุศลให้กับดวงวิญญาณที่ตายโดย ทุกขเวทนา ปลุกผีไว้ใช้งานเฝ้าบ้าน เฝ้าของมีค่า  ตลอดจนการเจริญสมาธิทำอสุภกรรมฐานต่าง ๆ ท่านว่าหลวงเตี่ยนี่ในเรื่องการปลุกเสกพระนั้นไม่ธรรมดา คือปลุกเสกพระโดยที่ไม่หลับตา และตาหลวงเตี่ยนั้นลักษณะเหมือนลุกเป็นไฟ(เห็นแล้วน่ากลัวจริงๆ เรื่องเดินกสินไฟ เนี่ยหลวงเตี่ยไม่เป็นรองใครเลย)และ อาจารย์เม้ง ยังได้รับการถ่ายทอดวิชาอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น สอนวิธีตั้งธาตุ เรียกผีตามคุ้มครอง เฝ้าบ้าน สิงคน ทำเสน่ห์เล่ห์กล ถอนคุณถอนของ หลวงเตี่ยสอนให้เยอะมาก และหลวงเตี่ยเองก็พอใจในความ วิริยะ อุตสาหะ สนใจใคร่รู้ในตัว อาจารย์เม้ง เป็นอย่างมาก จึงได้ถ่ายทอดให้โดยไม่ปิดบัง

จากวัดกลางนา อาจารย์เม้ง ได้มุ่งหน้าสู่วัดสามไถ จ.อยุธยา เพื่อขอเรียนวิชากับยอดเกจิทางเมตตา มหาเสน่ห์ยุคนั้น นั่นคือ หลวงพ่อน้อยแห่งวัดสามไถ โดยได้รับการถ่ายทอดวิชาสักยันต์ ผีเสื้อ แมลงป่อง และยันต์เพชรพญาธร ซึ่ง อาจารย์เม้ง เรียนขึ้นเสกขึ้น ทำเป็นจนหลวงพ่อน้อยผู้เป็นอาจารย์ชื่นชมในสมาธิจิตที่ดี และยังถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้อีกหลายอย่าง

จากวัดสามไถ อาจารย์เม้ง ก็มุ่งหน้าเสาะแสวงหาวิชา จากครูบาอาจารย์ดีๆอีกหลายแห่ง โดยตระเวนไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เจอครูบาอาจารย์ที่น่าเลื่อมใส ก็น้อมกายและใจฝากตัวเพื่อเรียนรู้ในช่วงเวลานี้นับเป็นเวลาที่ อาจารย์เม้ง ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆไว้มากมาย

 

ต่อมาได้เดินทางมาที่วัดมารวิชัยที่ จ.อยุธยา โดย อาจารย์เม้ง ได้เดินทางมาพบพระภิกษุชราที่มีปฏิปทาน่าเลื่อมใสศรัทธายิ่ง นั่นคือ พระครูเกษมคณาภิบาล หรือ หลวงพ่อมี เขมธัมโม ยอดเกจิกระเดื่องนามแห่งเมืองกรุงเก่านั่นเอง โดยที่ อาจารย์เม้ง ได้ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ โดยปกติหลวงพ่อมี ท่านเป็นพระที่ดุมาก ถ้าใครที่ทำอะไรไม่เข้าท่า เข้าทางเป็นโดนท่านตำหนิแน่ แต่กับ อาจารย์เม้ง นั้นแปลกมาก หลวงพ่อมีให้ความรักและสนใจในตัวลูกศิษย์คนนี้เป็นอย่างดี โดยที่หลวงพ่อมีท่านได้สอนการทำสมาธิในระดับที่สูง สอนเคล็ดวิชาครูฤาษี สอนยันต์นะหน้าทองตามตำราหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก สอนวิชายันต์พรหม4หน้า จนถึงการเป่ายันต์ขั้นสูง ในสายวิชายันต์เกราะเพชร ตำราหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ซึ่งในตอนนั้น ถ้าวันไหน อาจารย์เม้ง ว่างจากงานทางโลก จะไม่ไปที่ไหนเลยนอกจากมุ่งหน้าไปกราบ หลวงพ่อมี เพื่อต่อวิชาที่หลวงพ่อได้สั่งสอนและ อาจารย์เม้ง นั้นหลวงพ่อมีท่านมีเมตตาให้ถึงขนาดที่ อนุญาติให้เป็นผู้ออกรวบรวมมวลสารตลอดจนว่านนานาชนิด เพื่อสร้างพระขุนแผนให้กับท่านแถมยังบอกคาถากำกับให้ ซึ่งผู้ที่ได้ไปสมัยนั้นอ่านคาถาทีไรอดนึกขำไม่ได้ซักที (แต่ขอบอกว่าเด็ดขาดจริงๆ)แม้แต่วันที่หลวงพ่อมี มรณภาพ อาจารย์เม้งใน ตอนนั้นท่านติดธุระ ก็ได้ยกเลิกกลางคัน และมุ่งหน้ากราบแทบเท้าครูบาอาจารย์ที่ท่านรักเป็นครั้งสุดท้าย ทุกวันนี้วิชาครูฤาษีที่หลวงพ่อมีได้ถ่ายทอดให้ไว้ อาจารย์เม้ง ก็นำมาสร้างให้ลูกศิษย์ได้ไว้บูชา เพื่อสืบวิชาครูบาอาจารย์อันเป็นทีรักยิ่งของ อาจารย์เม้ง สืบไป

หลังจากสิ้นหลวงพ่อมี อาจารย์เม้งได้เดินทางเรียนวิชาเพิ่มเติมจากท่าน สยาก๊วย อาจารย์ฆราวาสชาวพม่า โดยที่มี ท่าน อาจารย์ตี๋ เป็นพี่เลี้ยงและเป็นศิษย์พี่ของท่านด้วย โดยที่สำนักสยาก๊วยนี้ อาจารย์เม้งได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาทาง เมตตามหาเสน่ห์ต่างๆมากมาย ไม่ว่า จะเป็นการทำน้ำมันอาถรรพ์ การหาของอาถรรพ์ทางเสน่ห์ตามธรรมชาติเพื่อนำมาปลุกเสก การลงยันต์ทำตะกรุดเสน่ห์ต่างๆ การเสกกุมาร และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งยันต์บางอย่างก็เปิดเผยเป็นสาธารณะไม่ได้ นอกจากศิษย์ในสำนักเท่านั้น และ อาจารย์เม้ง ยังได้รับการถ่ายทอดวิชาเสริมดวง ค้ำดวง แก้อาถรรพ์ต่างๆ ซึ่ง สยาก๊วย นั้นได้ยอมรับลูกศิษย์ของท่าน2คนที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้จากท่านที่ถูก ต้องทุกประการคือ 1.ท่าน อาจารย์ตี๋ (ผู้ที่เป็นดั่งสายลม) 2.ท่าน อาจารย์เม้ง ขุนแผน ซึ่งวิชาทางเสน่ห์ที่ร่ำเรียนกับ สยาก๊วย นั้น   อาจารย์เม้งเคยพูดเล่นๆว่า ถ้าทำเป็นวัตถุมงคลและเครื่องรางออกมา คงทำได้หลายร้อยชนิดเลยแหล่ะแก

ทุกวันนี้ ทาง อาจารย์เม้ง ขุนแผน ได้ทุ่มเทเวลาช่วยเหลือลูกศิษย์ ไม่ว่าใกล้หรือไกลโดยที่ใช้สรรพเวทวิทยาคม ที่ได้ร่ำเรียนมาเกือบครึ่งชีวิต สงเคราะห์ให้กับคนเหล่านั้นโดยที่ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ซึ่งลูกศิษย์ที่คอยดูแล อาจารย์เม้ง นั้นเห็นแล้วต่างเหนื่อยแทน แต่ อาจารย์เม้ง บอกว่าคนที่มาหาเราที่สำนักล้วนแบกความทุกข์มาหาเรา เพื่อหวังพึ่งเรา เราเองเป็นครูบาอาจารย์ก็ไม่ควรที่ต้องให้เขาแบกความทุกข์นั้นกลับไปอีก

view
view